เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 24 มิ.ย.67 ที่สำนักงานศุลภากรภาคที่ 5 อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พันเอกฐิติพงษ์ อินวะษา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 5 และนางสาวนุชนารถ สินสุวรรณสาร นายด่านศุลกากรบ้านดอน ตลอดจน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวจับกุมสินค้าบุหรี่ต่างประเทศ และบุหรี่ไฟฟ้า หนีภาษี ลักลอบส่งทางไปรษณีย์มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท
การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักงานศุลกากรภาคที่ 5 ได้รับเบาะแสว่าจะมีการลักลอบขนส่งบุหรี่ต่างประเทศ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าในรูปแบบพัสดุไปรษณีย์ในประเทศ ผ่านเข้ามาในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบ
จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้และการควบคุมทางศุลกากร และด่านศุลกากรบ้านดอน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ กอ.รมน.ภาค บูรณาการกำลัง ร่วมกันสกัดและตรวจค้นรถขนส่งพัสดุต้องสงสัย ที่บริเวณถนนสายเอเชีย 41 (ขาขึ้น) พื้นที่อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
จนกระทั่งมีรถขนส่งพัสดุสีแดง ติดตราสัญลักษณ์ของบริษัทไปรษณีย์ไทย ผ่านมา จึงได้เรียกตรวจ โดยใช้เครื่องเอ็กซเรย์ชนิดถือ (Handheld X-ray) ตรวจสอบกล่องพัสดุ และพบสิ่งของรูปร่างคล้ายบุหรี่(มวน)และบุหรี่ไฟฟ้า
เชิญเจ้าหน้าที่ตัวแทนบริษัทผู้ขนส่ง มาเปิดตรวจร่วมกัน ก่อนจะพบว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายศุลกากร ปะปนอยู่ จึงได้อายัดไว้ตรวจสอบ ประกอบด้วย บุหรี่ลักลอบหนีศุลกากร 996,340 มวน บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 3,863 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 8 ล้านบาท
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถคันดังกล่าวมีต้นทางมาจาก ศูนย์ไปรษณีย์ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ไปส่งปลายทาง ที่ศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพมหานคร
โดยพัสดุมีของผิดกฎหมาย มีต้นทางมาจากหลายจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ก่อนจะมารวมกันที่ศูนย์ไปรษณีย์อำเภอหาดใหญ่และนำขึ้นรถขนส่ง ซึ่งทราบเบื้องต้นว่า เป็นรถร่วมส่งพัสดุของบริษัทภายนอก แต่คนขับอ้างว่า ไม่ทราบว่ามีพัสดุอะไรบ้าง โดยเจ้าหน้าที่ ก็จะได้ขยายผล เพื่อหาต้นทางลักลอบส่งสิ่งของผิดกฎหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน เด็กและเยาวชนไทย หันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก อีกทั้งผู้ผลิตได้ดัดแปลง รูปลักษณ์ภายนอกของบุหรี่ไฟฟ้าให้มีความน่าสนใจ ดึงดูดใจให้บริโภค
รวมถึงผสมยาเสพติดประเภทอื่นเข้าไปในน้ำยา บุหรี่ไฟฟ้าจนทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อสุขภาพ จึงสั่งการเร่งปราบปราม และจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าและผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ส่วนควบอย่างจริงจัง
………………………………….