วันพุธที่ 13 ธันวาคม 2566 เวลา 09.30 น. นางสาวณฐพร สิทธิชัย ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปท. เขต 8 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริตในภาครัฐ ลงพื้นที่ร่วมกับ ผู้แทน กอ.รมน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนตำบลน้ำรอบ ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนจากเครือข่ายภาคประชาชนตามมาตรการเปิดบ้าน ป.ป.ท. (Open House) กรณี “ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการใช้ถนนสายทล.41-ทล.401 ตำบลมะลวน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นระยะเวลากว่า 2 ปี จากการที่ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการในพื้นที่ใช้เป็นเส้นทางให้รถบรรทุกวิ่งถมดิน ทำให้ถนนชำรุด เสียหาย เป็นหลุมเป็นบ่อ การสัญจรไม่สะดวก ล่าช้า”
จากการลงพื้นที่มีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือแนวทางแก้ไข ประกอบด้วย แขวงทางหลวงชนบทสุราษฎร์ธานี อบจ.สุราษฎร์ธานี, อบต.มะลวน, อบต.น้ำรอบ, และ อบต.บางงอน สรุปข้อเท็จจริงได้ว่า ถนนสายดังกล่าวสร้างโดย อบจ. สุราษฎร์ธานี ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขอให้แขวงทางหลวงชนบทฯ ซ่อมสร้างถนนสายนี้ขึ้นเพื่อเป็น ทางเชื่อมต่อกับทางหลวง และถนนสายอื่น โดยดำเนินการก่อสร้างประมาณ 8 กม.
ซึ่งคาบเกี่ยวหลายพื้นที่ได้แก่ ตำบลมะลวน ตำบลน้ำรอบ และตำบลบางงอน โดยหลังจากก่อสร้างไม่มีการส่งมอบให้หน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบ เมื่อเกิดปัญหาความเสียหาย จึงไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดำเนินการแก้ไข ซึ่งสภาพปัจจุบันถนนชำรุดเสียหาย เป็นหลุมเป็นบ่อ จำนวนมาก จนน่าจะเกิดอันตราย ต่อประชาชนที่สัญจร โดยเฉพาะเวลากลางคืน และเวลาฝนตกจะเกิดน้ำท่วมขัง
โดยถนนที่เกิดเสียหายยาวประมาณ 2 กม. คาบเกี่ยวพื้นที่ตำบลมะลวน และตำบลน้ำรอบ ซึ่งการแก้ไขที่ยั่งยืนนั้น แขวงทางหลวงชนบทฯ ได้ทำเรื่องเสนอให้ถนนช่วงดังกล่าวขึ้นทะเบียนโครงข่ายทางหลวงชนบท เพื่อจะได้จัดสรรงบประมาณในการซ่อมบำรุงต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมทางหลวงชนบท ซึ่งหากขึ้นทะเบียนแล้วเสร็จ คาดว่าจะจัดทำแผนงานซ่อมบำรุงฯ ได้ในปีงบประมาณ 2568
ส่วนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า/เร่งด่วนนั้น อบจ.สุราษฎร์ธานี จะสนับสนุนเครื่องจักร และ อบต.มะลวน ซึ่งอยุ่ในพื้นที่ถนนที่มีความเสียหายฯ จะสนับสนุนงบประมาณ (ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและหินคลุก) โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ สำนักงาน ปปท. เขต 8 ได้แนะนำให้ อบต.มะลวน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าดังกล่าว และให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำหนักรถ ที่สัญจร รวมถึงเน้นย้ำให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกัน มิให้เกิดการกระทำความผิดหรือการถูกร้องเรียนซ้ำอีก
……………………………………………………………………………………
ทีมข่าวพลังราษฎร์