เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ทำหนังสือถึงประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ขอความอนุเคราะห์ให้คงเปิดเส้นทางการบินระหว่างสุวรรณภูมิ – สุราษฎร์ธานี หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้โดยสารสายการบินไทยสมายส์ ว่าจะหยุดการบินตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป
นายวิชวุทย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากหากสายการบินไทยสมายล์ จะหยุดการบินในเส้นทางสุวรรณภูมิ – สุราษฎร์ธานีซึ่งเป็นสายการบินยอดนิยม หลังจากสถานการณ์โควิด – 19 คลี่คลายประชาชนใน จ.สุราษฎร์ธานี และนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ เดินทางมายัง จ.สุราษฎร์ธานี และจังหวัดใกล้เคียง เช่น ชุมพร , ระนอง , กระบี่, พังงา และนครศรีธรรมราช เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจุดที่ตั้งท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี เสมือนเป็นสุวรรณภูมิของภาคใต้ตอนบน มีระยะเดินทางไปยังจังหวัดข้างเคียงดังกล่าวประมาณ 2 ชั่วโมง
“ โดยในห้วง 6 เดือนแรกของปีนี้(มกราคม-มิถุนายน 2566)มีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี 695,682 คน ซึ่งสถานการณ์ท่องเที่ยวกลับมาดีขึ้นมาก ล่าสุดเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีจำนวน 754 เที่ยวบิน ผู้โดยสาร 114,404 คน เพราะการเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นที่นิยมและมีความรวดเร็วใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง 20 นาที ผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจอย่างมาก หากหยุดเส้นทางบินดังกล่าวประชาชนใน จ. สุราษฎร์ธานีและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะได้รับความเดือดร้อนจากเที่ยวบินไม่พอ จึงขอความอนุเคราะห์ทางบริษัทคงเปิดเส้นทางบินดังกล่าวต่อไป “ นายวิชวุทย์ กล่าว
ด้านนักธุรกิจและผู้ประกอบการใน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สายการบินไทยและต่อเนื่องสายการบินไทยสมายล์เปิดบริการอยู่คู่สุราษฎร์ธานีมากว่า 40 ปี จึงช็อตความรู้สึกและเสียดายโอกาสที่จะหยุดบิน เพราะยังเติบโตได้อีกมาก ซึ่งชาวสุราษฎร์ธานีเคยคัดค้านการหยุดบินเมื่อปี 2552 มาแล้วจนปัจจุบันมีอัตราผู้โดยสารกว่าร้อยละ 70 อีกทั้งเป็นสายการบินหลักที่นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวเชื่อมั่นในมาตรฐานการบริการ หากยกเลิกจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว รวมทั้งเศรษฐกิจภาคใต้ในอนาคตอย่างแน่นอน จึงขอให้การบินไทยได้ทบทวนอีกครั้ง ชาวสุราษฎร์ธานีพร้อมใช้บริการและดูแลให้อยู่คู่เมืองหลักภาคใต้ต่อไป
……………………………………………………………………………………………………………………
ภาพ/ข่าว สปข5.สฎ
