วันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 18.30 น.ที่ลานข้างห้างสหไทยดีพารทเม้นท์สโตร์ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และทีมผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีหลังจากที่ได้รับเบอร์พรรคเบอร์ 7
ทั้งนี้ก่อนที่จะขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อพบปะพี่น้องชาวสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เวลา 15.30 น. นายอนุทิน ได้เดินทางมาร่วมพิธีสรงน้ำรูปหล่อหลวงพ่อพัฒน์ นารโท พระเกจิชื่อดัง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นได้เดินทางไปที่มูลนิธิมุฑิตาจิตธรรมสถาน เพื่อสักการะองค์เจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน รู้สึกดีใจที่วันนี้เห็นพี่น้องประชาชนมีความสุข และสุขภาพดี เศรษฐกิจเริ่มดีหลังจากที่เราร่วมกันฝ่าฟันวิกฤติโควิด19 มาได้จากวันที่พวกเราได้ตัดสินใจเปิดประเทศจึงส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมในวันนี้จึงเห็นพี่น้องประชาชนได้ทำมาหากินได้แล้ว และสามารถจัดงานต่างๆในระดับท้องได้มากขึ้นจึงเห็นแต่รอยยิ้มของประชาชนที่มีความสุขขอขอบคนสุราษฎร์ธานีที่ให้การต้อนรับตนและพรรคอย่างอบอุ่น หลังจากนั้นได้เดินทางไปพบปะพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนในตลาดมิตรเกษม และตลาดศาลเจ้า ก่อนจะเดินทางมาขึ้นเวทีปราศรัย เพื่อช่วยเรียกคะแนน ให้กับผู้สมัครทั้ง 7 เขตของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายอนุทิน ชาญวีระกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวบนเวทีปราศรัยที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยพูดออดอ้อนภาษาใต้ถิ่นสุราษฎร์ว่าขอเสียงให้ผู้สมัครทั้ง7เขตสุราษฎร์ธานี การเลือกตั้งในครั้งนี้ตนเองมั่นใจว่าชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะไว้วางใจผู้สมัครทั้ง 7 เขตเลือกตั้งของพรรคอย่างแน่นอนซึ่งดูได้จากพี่น้องประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัยมองไปสุดลูกหูลูกตา ตนเองยังมั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้เก้าอี้เพิ่มในพื้นที่ภาคใต้ เพราะด้วยนโยบายของพรรคที่ “พูดแล้วทำ” ทุกอย่างเราทำหมดแล้ว
จึงขอเสียงคนใต้ด้ามขวานของประเทศไทยที่พรรคภูมิใจไทยเคย 11 เสียงขอเพิ่มเป็น30เสียง ทำโครงการแลนบริดจ์เชื่อมต่ออ่าวไทยอันดามัน โดยที่ไม่ต้องขุดคลองให้ยุ่งยาก ซึ่งจะไม่กระทบต่อความมั่นคง หากเสร็จสร้างฐานเศรษฐกิจให้มั่นคงให้เป็นด้ามขวานทองของประเทศไทย คนภาคใต้ได้อยู่ดีกินดี สุขภาพดีกันถ้วนหน้า และจะพลักดันภาคใต้ให้เป็นศูนย์กลางในการท่องเที่ยวและสาธารณสุข อย่างแท้จริง ที่
ด้านนายศักดา สมบูรณ์ลักขณา ผู้สมัครเบอร์7 พรรคภูมิใจไทย กล่าวบนเวทีโดยสรุปบางช่วงบางตอนว่าเป็นการปราศรัยครั้งแรกของพรรคภูมิใจ และเลือกจ.สุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดมีศักยภาพจะสร้างให้เป็นเมืองหลวงของภาคใต้ตอนบน ตนเองตั้งใจเป็นตัวแทนของประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีเขต1 เพื่อพัฒนาในทุกๆด้านทำให้ประชาชนมีความสุขตามนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่ “พูดแล้วทำ” ตนเป็นผู้บริหารการเมืองท้องถิ่น เป็นรองนายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานีมา 2 สมัย ได้รู้ได้เห็นความต้องการของพี่น้องประชาชน สิ่งที่อยากทำให้กับพี่น้องประชาชนยังมีอีกมากที่ตั้งใจวันนี้จึงตัดสินใจที่จะมารับใช้และจะทำงานให้เต็มที่หากได้รับเลือกเข้าไป ตนเป็น “คนติดดิน พบง่าย เข้าใจง่าย” ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรกับตน บิดาของตนหลายๆคนรู้จักเป็นอย่างดีเป็นคนชอบช่วยเหลือสังคมสิ่งที่พ่อแม่ทำ สอนสั่งพวกเราให้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินพวกเราจำไม่มีวันลืมวันนี้พวกเราจึงทำงานในฐานะนักการเมืองท้องถิ่นรับใช้พี่น้องประชาชนของจังหวัดสุราษฎร์ธานีทุกคน
สำหรับบรรยากาศวันนี้เป็นด้วยความคึกคักของกองเชียร์ โดยเฉพาะเมื่อหัวหน้าพรรคทักทาย และเซลฟี่กับประชาชนอย่างไม่ถือตัวอย่างอบอุ่น จากการสอบถามคณะทำงานได้เตรียมเก้าอี้ไว้ผู้ที่เข้ามาร่วมปราศรัยมากกว่า 7 พัน ตัวแต่ก็ยังไม่พอกับประชาชนที่ทยอยเดินทางมารับฟังการปราศรัยครั้งนี้อีกหลายร้อยคนต้องยืนเต็มพื้นที่ที่ทางคณะทำงานได้จัดไว้
………………………………………………………………………………………………
ทีมข่าวพลังราษฎร์ /การเมือง
