เป็นอีกพื้นที่ที่น่าจับตาของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี เมื่อ “อมรินทร์ ชูเพชร” หรือที่รู้จักกันในนาม (สจ.อ่ำ) สจ.อำเภอพนม กับการตัดสินใจลงสมัครในพื้นที่ เขต 4 ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งประกอบไปด้วย อ.พุนพิน อ.คีรีรัฐ และอ.บ้านตาขุน ซึ่งต้องต่อสู้กับผู้สมัครพรรคเก่าแก่ที่เป็นเจ้าของพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องและไม่ธรรมดา
- –ทำไมถึงตัดสินใจลงสมัคร สส. ในพื้นทีเขต 4
หลายคนสงสัยว่า ผมเป็น สจ.อ.พนม จริงๆแล้วมีฐานเสียงอยู่ในพื้นที่นั้นอยู่แล้ว แต่ทำไมเลือกที่จะมาลงเขต4 จริงๆแล้ว ปู่ผมเป็นคนคีรีรัฐ ย่าเป็นคนบ้านตาขุน สมัยนั้นดูเหมือนพื้นที่แถวๆคีรีรัฐเริ่มจะเต็มครอบครัวเราก็ขยับขยายไปอยู่ที่ อ.พนม ทำมาหากินสร้างแต่สิ่งดีๆ จนปัจจุบันครอบครัวผมก็ได้รับความไว้วางใจ ผมก็ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่ง สจ.ดูแลพี่น้องประชาชนและทุ่มเทการทำงานให้ อ.พนมมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยบริบบสำนึกรักบ้านเกิดของปู่กับย่าผมก็ยังรู้สึกรัก และอยากมาทำการเมืองระดับประเทศที่ในพื้นที่เขต4 อีกทั้งแม่ผมก็เป็นคนอำเภอพุนพินอีกด้วย จึงตัดสินที่ลงทำการเมืองในพื้นที่นี้เพื่อส่งต่อความเจริญไปถึงจากพื้นที่นี้ไปถึงอำเภอพนม โดยเฉพาะนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมต่อกัน
ผมเป็นลูก นายกปราโมทย์ ชูเพชร นายกเทศมนตรีตำบลพนม พ่อจะสอนตลอดว่า “ทุกอย่างที่เราได้มาเราต้องนึกข้าวแดงแกงร้อนที่ประชาชนมอบให้เรามา” ตอนนั้นพ่อผมเคยถามว่าจะให้ลง สจ.เอาไหม ผมก็ตอบว่าได้แต่พ่อบอกต้องรักษาสัญญาก่อนว่า “อย่าลืมบุญคนที่เขาให้โอกาสกับครอบครัวของเรามา ทุกอย่างต้องดูแลพี่น้องประชาชน”
มีงานต้องไปช่วย งบประมาณต้องหามาพัฒนาบ้านเกิดของเรา ตอนเป็น สจ.ผมก็ไม่เคยลืมพื้นที่ถ้าจำได้เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วจะเห็นได้ว่าพนมยังมีลูกรังเต็มไปหมดแต่เมื่อผมเป็น สจ.มีการทำงานแบบประสานมือกับทุกภาคส่วนปัจจุบันทำให้พนมเจริญขึ้นเป็นอย่างมาก ถนนลูกรังแทบไม่มีให้เห็นนั่นเป็นผลงานของผู้นำท้องถิ่นทุกคนที่มีวิสัยทัศน์ประสานกับ อบจ.วันนี้พนมจึงพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว
- อยากทำอะไรให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่
ผมถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ เมื่อคิดจะลงสมัคร ส.ส.จะมีคติเตือนใจตนเองอยู่เสมอว่า เราต้อง “จำที่มา รู้ที่ไป” เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ “คิดเป็น ทำเป็น พูดเป็น กล้าพูดกล้าทำ” คำว่าจำที่มาผมจะไม่ลืมบุญคุณพี่น้องทุกคนที่เขาให้โอกาสผม รู้ที่ไปผมรู้ว่าเมื่อผมไปอยู่พรรคภูมิใจไทย จะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน เป็นพรรคที่เข้าใจบริบทชนบทได้ดีกว่าทุกพรรค พรรคภูมิใจไทยเข้าถึงการแก้ปัญหา รู้จักหาคนลำบากมาแก้ไขปัญหา ไม่เน้นบ้านใหญ่ เน้นคนกล้าพูดกล้าทำนี่คือสาเหตุที่เลือกมาอยู่ภูมิใจไทย
-ความตั้งใจอันดับแรกที่อยากจะเข้าไปแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน เรื่องแรก ผมหวังให้ราคาผลผลิตทางการเกษตร ราคาจะต้องดีกว่าเดิม ก่อนจะยุบสภาปาล์มขึ้น 7-8 บาท ผมอยากให้ราคาอยู่อย่างนี้ตลอดไป จะถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะขับเคลื่อนเพื่อพี่น้องชาวยาง ชาวสวนปาล์ม เรื่องที่ 2 จะส่งเสริมเรื่องแหล่งท่องเที่ยวของ 3 อำเภอ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทางด้านธรรมชาติ และสิ่งมหัศจรรย์ที่เราจะต้องเข้าไปช่วยผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจะเป็นการสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นจำนวนมาก
ที่ผ่านมาผมไม่ค่อยได้เห็นคนที่เป็น สส.คิดจะส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที อ.พนม มากนักผมก็เลยคิดทำสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ขึ้นมาที่ชื่อ “คิงคอง”ตอนนั้นคนแห่ไปดูกันเป็นจำนวนมากทำให้การท่องเที่ยงอำเภอพนมกลับมาคึกคัก รถติดกันเป็นจำนวนมากทำให้คนมาเที่ยว อ.พนม ปัจจุบันกำลังปรับปรุงสร้างสิ่งใหม่ให้คนมาเที่ยวมากขึ้นอีก ถ้าเรามาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งสามอำเภอเรื่องของท่องเที่ยวบ้านเราคงจะดีขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว
- คิดเห็นกับเรื่องนโยบายกัญชาของพรรคอย่างไรบ้าง
ในเรื่องของสุขภาพ เรื่องปากท้องพี่น้องประชาชนก็เป็นสิ่งสำคัญที่ผมห่วงมากเช่นกันพรรคภูมิใจไทยก็ได้สร้างระบบสาธารสุขในช่วยโควิดที่ผ่านดูแลพี่น้องประชาชน สิทธิ์ต่างๆได้ดีขึ้นกว่าเดิม “นโยบายกัญชา” ผมถือเป็นนโยบายที่ดี ไม่ว่ากัญชา เงิน รถ หรือเมีย พูดกันตรงๆถ้าเราใช้เยอะมีผลเสียหมด แต่ถ้าเราเลือกใช้ในสิ่งที่ดีใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ก็จะเป็นประโยชน์
“นโยบายกัญชาเป็นสิ่งที่ดีถ้าใช้ในทางการแพทย์ใช้ในการรักษาก็จะมีประโยชน์ ยกตัวอย่างแม้สุนัขเป็นโรคขี้เรื้อน ถ้าเราต้มน้ำกัญชาให้กินก็หายได้ ทุกวันนี้คนเครียดจากเศรษฐกิจ เครียดจากปัญหาส่วนตัวถ้าได้ดื่มน้ำกัญชาก็ช่วยคลายความเครียดได้เหมือนกัน กัญชาสามารถนำมาทำมาหากินทำอาหารที่มีกัญชาผลมถ้าเราใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ขายให้กับเด็กโดยมีกฎหมายควบคุมมันก็ช่วยได้ทั้งอาชีพ และสุขภาพอีกด้วย
- มั่นใจแค่ไหน
ผมชอบอยู่กับชาวบ้าน ชอบช่วยเหลือ และชอบแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านในระยะยาว “เราจะไม่เอาปลาไปให้ชาวบ้านกิน แต่เราจะเอาปลาไปให้เขาเลี้ยง” ในลักษณะของพื้นที่ทั้งหมดเราจะเข้าใจชาวบ้าน เราไม่เคยทอดทิ้ง ตอนโควิดเราทำงานร่วมกับ อสม.จะมีการประสานการทำงานกับผู้นำในระดับท้องถิ่นเพื่อช่วยสนับสนุน อสม.ให้ทำงานได้คล่องตัว จนตอนนี้ชาวบ้านมักจะพูดถึงผมว่า “ตอนโควิดมันก็ไม่ทิ้ง” แมส หรือ วัคซีนมันก็ไปหามาให้ คนอื่นหาไม่ได้แต่ สจ.อ่ำหามาได้ ผมทำงานหนักเพื่อความปลอดภัยของ อสม ความปลอดภัยของประชาชนมาโดยตลอด ปัจจุบันมีอะไรที่ผมช่วยเขาได้ก็ยังช่วยจนเขาเอ็นดูผม เพราะคำสอนของพ่อผมไม่ให้ลืมบุญคุณเขา
จากการลงพื้นที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขามักจะพูดกันว่าสงสารผม เขาเห็นผมทุกงาน ช่วยทุกเรื่อง มันน่าเอ็นดูจริงๆ รักผมเสมือนลูกหลาน กลุ่มวัยรุ่นก็มักจะบอกว่าพี่คนนี้ใจถึงพึ่งได้ขออะไรได้หมดกิจกรรมทุกอย่างผมจะอยู่ในพื้นที่ นี่คือแรงบันดาลใจให้ผมจะได้ลงมาต่อสู้กับนักการเมืองของพรรคเก่าแก่ต้องยอมรับในฐานเสียงอยู่แล้ว แต่เสียงที่จะเลือกเรามาจากพี่น้องประชาชนที่รักผม ผมจึงมั่นใจ และตัดสินใจลงการเมืองระดับประเทศในนามพรรคภูมิใจไทย จากการลงพื้นที่แต่เสียงส่วนมากอยากจะลองของใหม่ ตอนนี้อะไรก็เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ และผมก็มั่นใจที่อยู่กับพื้นที่มาต่อเนื่อง จะได้ความรักความอบอุ่นจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ผมได้เข้าไปแก้ปัญหาให้กับเขาอีกด้วย
………………………………………………………………………………
ทีมข่าวพลังราษฎร์/รายงาน